Translate

อาหารเสริมคุณภาพราคาย่อมเยาว์

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Glutamic : กลูตามิค

Glutamic acid
ฟื้นฟูสมองและระบบประสาท
    กรดกลูตามิค(Glutamic acid) เป็นกรดอะมิโนที่เป็นเชื้อเพลิงให้สมองมีผลดีต่อผู้ป่วยทางระบบประสาทและสมอง แต่อาจมีผลเสียต่อสมองถ้าได้รับมองเกินไป
    เพิ่มประสิทธิภาพให้สมอง
บางครั้งถ้าแอมโมเนียเข้าสู่ร่างกายจะไปขัดขวางการทำงานของสมอง แต่เมื่อได้รับกรดกลูตามิค จะดึงเอาแอมโมเนียมาเป็นส่วนผสม จะปรับระดับความเป็นกรดจนกลายเป็นกลูตามีน(Glutamine) จะสนับสนุนการสร้างปัสสวะและขับแอมโมเนียออกจากร่างกาย  หากร่างกายได้รับกรดกลูตามิคไม่พอ จะมีผลเสียต่อ ประสิทธิภาพของสมองลดลง
    กรดกลูตามิคมีส่วนต่อระดับ I.Q. ของสมอง
เป็นที่เชื่อกันว่าการได้รับกรดกลูตามิคที่เพียงพอมีผลให้ระดับไอคิวสูงขึ้น และในทารกระดับไอคิวจะมากน้อยเชื่อกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปริมาณของกลูตามิค
    มีประโยชน์ในการรักษาโรคอีกหลายอย่าง
กลูตามิคช่วยให้เซลล์ยืดหยุ่น เปลียนพลังงานและไนโตรเจน ลดอาการพิษสุราเรื้อรัง ช่วยให้แผลในกระเพาะหายเร็วขึ้น คลายความอ่อนเพลีย แก้ไขอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย รักษาอาการทางจิต อาการหลงลืมต่างๆให้ดีขึ้น
    อันตรายที่หากได้รับมากเกินไป
กรดกลูตามิคไม่ได้มีแต่ด้านดี ถ้าหากมีกรดชนิดนี้มากเกินไปในสมองกลับเป็นการทำร้ายเซลล์สมองได้
หากผู้ชายได้รับกรดนี้วันละ 4กรัม ติดต่อกันถึง 3สัปดาห์ จะมีอาการฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ มีความต้องการทางเพศสูง ทรมานกับภาพหลอน และเมื่อหยุดรับประทานอาการอาการต่างๆจะค่อยหายไปเองใน 1สัปดาห์
 ประโยชน์
  • สร้างพลังงานให้กับสมอง
  • สร้างปัสสวะ
  • บรรเทาอาการทางจิต
  • รักษาแผลในกระเพาะ
  • มีส่วนช่วยแก้ไขอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
 
 แหล่งอาหารที่พบ
สาหร่าย แป้งสาลี น้ำตาลหัวผักกาด น้ำตาลอ้อย ชีสฟองดูว์ มะเขือเทศ

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

aspartic acid : แอสพาร์ทิค

aspartic acid
แหล่งพลังงาน รักษาระบบประสาท
 กรดแอสพาร์ทิค (aspartic acid) เป็นกรดที่ถูกค้นพบในหน่อไม้ฝรั่ง จะพบมากอยู่ในถั่วต่างๆ
   ช่วยขับแอมโมเนีย ที่มีพิษออกจากร่างกาย และรักษาระบบประสาท
    กรดแอสพาร์ทิค ถูกใช้สร้างโปรตีน ช่วยสร้างปัสสวะและขับแอมโมเนียออกทางปัสสวะ ช่วยรักษาระบบประสาทส่วนกลาง และเป็นวัตถุดิบในการสร้างสารถ่ายทอดข้อมูลของระบบประสาท
    สร้างแหล่งพลังงาน และลำเลียงเกลือแร่
    กรดแอสพาร์ทิคมีส่วนในการย่อยใไนโตรเจน ช่วยให้ภูมิต้านทานดีขึ้นแม้ขณะอ่อนเพลีย นิยมใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดืมชูกำลัง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ลำเลียง โปรตัสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย


ประโยชน์
  • ขับแอมโมเนียออกจากร่างกาย
  • สลายไนโตรเจนเป็นพลังงาน
  • วัตถุดิบในการสร้างสารถ่ายทอดข้อมูลของประสาท
  • ลำเลียงเกลือแร่
แหล่งที่พบ
หน่อไม้ฝรั่ง ถั่ว ถั่วงอก น้ำตาลอ้อย น้ำตาลหัวผักกาด

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Achilles tendon inflammation : วิธีรักษาอาการเจ็บเอ็นร้อยหวาย

เอ็นร้อยหวายอักเสบ
   ในช่วงนี้ผู้เขียนได้ประสบปัญหาบาดเจ็บจากอาการเจ็บเอ็นร้อยหวาย หรือเอ็นส้นเท้า วันนี้เลยคิดว่าน่าจะลองเขียนเรื่องนี้ดูดีกว่าเพื่อมาแชร์ ความรู้และวิธีการรักษา 

เอ็นร้อยหวายอักเสบ
   เอ็นร้อยหวายหรือภาษาการแพทย์ว่า Achiles tendonitis เป็นเส้นเอ็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย
เอ็นส่วนนี้เป็นส่วนที่ต่อเนื่องไปไปในส่วนของเส้นเอ็นส่วนน่อง และเส้นเอ็นส้นเท้า ฉะนั้นการเจ็บเอ็นร้อยหวายอาจมีส่วนเกี่ยวเนื่องมาจากเส้นเอ็นส่วนอื่นที่มีการตึงตัวก็ได้ นอกจากนี้สำหรับอาจจะเกิดจากอาการของโรครูมาตอยมาเกี่ยวข้องด้วย สำหรับผู้เป็นรูมาตอยจะมีเหมือนปุ่มขึ้นมาตรงส่วนของส้นเท้าที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บด้วย

อาการ 
  • โดยจะมีอาการปวดที่บริเวณเอ็นร้อยหวายขณะเดิน
  • จะมีอาการเจ็บมาเมื่อออกกำลังกาย และจะเจ็บมาขึ้นเมื่อหยุด
  • สำหรับผู้มีอาการรูมาตอยมักจะมีตุ่มเป็นเม็ดขึ้นบริเวณจุดที่เจ็บ และจะมีอาการปวดมาเมื่อตอนตื่นนอน และจะค่อยทุเลาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
สาเหตุ 
   มีด้วยกันหลายสาเหตุมากเช่น
  • การใช้งานเส้นเอ็นส่วนนั้นหนักเกินไป
  • น้ำหนักตัวมาก
  • กีฬาที่ต้องวิ่งมากและมีการวิ่ง Sprint วิ่งๆหยุดๆ หรืออาจจะเกิดจากอุบัติเหตุจากกีฬา
  • การใช้รองเท้าที่ไม่เหมาะสมส้นแข็งเกินไปหรือรูปทรงที่ไม่รองรับน้ำหนักที่ดี
  • กล้ามเนื้อน่องตึงตัว
  • ความผิดปกติของเท้า
วิธีการรักษา
  • ควรหยุดการใช้งานที่หนักในส่วนนั้นทันที
  • ไม่ควรเดินเท้าเปล่า ควรหารองเท้าที่มีรูปทรงรับกับทรงฝ่าเท้าและมีส้นที่สูงขึ้นมานิดหน่อย
  • ใช้ผ้าพ้นหรือ แองเกิ้ลสวมใส่
  • ปวดแรกๆควรใช้ความเย็นประคบ
การป้องกัน
  • ควรมีการยืดเส้น และวอร์ม อบอุ่นร่างกายก่อนมีการออกกำลังกายทุกครั้ง
  • ใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับเท้า และเหมาะสมกับชนิดกีฬา
 
สำหรับแนวทางการดูแลและรักษาตามแนวของผู้เขียน
   อาหารก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราหายจากอาการบาดเจ็บได้เร็วขึ้นนอกจากยารักษาจากแพทย์
  • ใช้น้ำร้อนประคบน่าจะช่วยให้หายเร็วขึ้นโดยประคบก่อนนอนหรือหลังออกกำลังกายเบาๆเสร็จ
  • บางครั้งเล่นกีฬาอาจจะยังมีอาการเจ็บอยู่แนะนำให้ออกกำลังแต่เบาๆและพยายามอย่าลงน้ำหนักที่ส้นเท้า พยายามใช้การลงน้ำหนักที่ปลายเท้าหรือเขย่งให้มากที่สุด(ในช่วงที่ยังมีอาการเจ็บ)
  • อาหารที่แนะนำที่สามารถช่วยบำรุงเส้นเอ็นโดยเฉพาะคือ ข้าวกล้อง เม็ดบัว ลูกเดือย และเมล็ดทานตะวัน  
     โดยผู้เขียนก็พยายามทานทุกวันในช่วงที่มีอาการเจ็บ โดยเฉพาะข้าวกล้องและเมล็ดทานตะวันถือว่าช่วยได้มาก  (แต่สำหรับผู้ที่มีอาการรูมาตอยอาจจะไม่ควรทานมากจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง)

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Arginine : อาร์จินีน

Arginine
สร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต
   อาร์จินีน (Arginine) กรดอะมิโนชนิดนี้ร่างกายในวัยผู้ใหญ่สามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่สำหรับเด็กยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ ดังนั้นกรดอะมิโนชนิดนี้จึงเป็นกรดอะมิโนจำเป็นสำหรับเด็ก
   สร้างฮอร์โมนเจริญเติบโต สร้างภมูิต้านทานที่มีประสิทธิภาพ
กรดอะมิโนอาร์จินีนนั้นจะช่วยสร้างฮอร์โมนเจริญเติบโต(growth hormone)ที่มีประสิทธิภาพ ภูมิต้านทานตอบสนองดีขึ้น บาดแผลหายเร็วขึ้น และยังช่วยระงับความหิว จึงมีผู้นำมาทำยาลดความอ้วยอีกด้วย 
   เผาผลาญไขมัน ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
ฮอร์โมนสร้างความเจริญเติบโตนั้น มีอาจินีน เป็นส่วนประกอบ ฮอร์โมนนี้จะช่วยเผาผลาญไขมัน 
นอกจากนี้กรดอะมิโนอาร์จินีน ยังนิยมใช้ในหมู่นักเพาะกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แม้จะสร้างได้เองในวัยผู้ใหญ่แต่เมื่อได้เข้าสู่วัย 50ปี ร่างกายจะไม่หลั่งฮอร์โมนนี้ ถ้าได้รับฮอร์โมนดังกล่าวในลักษณะยาบำรุงสุขภาพควบคู่กับวิตามินและเกลือแร่แล้วก็จะช่วยใหย่กล้ามเนื้อและระบบประสาทมีชีวิตชีวาขึ้นได้
การได้รับกรดอะมิโน arginine การได้รับ tryptophan, glycine, tyrosine และกรดอะมิโนอื่นๆพร้อมกันจะได้รับประโยชน์มากกว่ารับเพียงบางตัวในเวลาต่างกัน
   อาจินีนอาจมีผลเสียต่อผู้เป็นภูมิแพ้แบบผดผื่น และผู้เป็นโรคจิตควรหลีกเลี่ยงการได้รับกรดอะมิโนชนิดนี้

ประโยชน์
  • สร้างฮอร์โมนเจริญเติบโต
  • เผาผลาญไขมันในร่างกาย
  • ช่วยให้กล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆ รวมทั้งเอ็นร้อยหวายแข็งแรงขึ้น
  • เพิ่มบริมาณอสุจิ
  • ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น
  • บาดแผลหายเร็วขึ้น

แหล่งอาหารที่พบ
เนื้อวัว ไก่ ถั่วต่างๆ งา เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ช็อกโกแลต นม

หากได้รับมากเกินไป
ผิวเสียด้านหนา กระดูกเปลี่ยนรูปร่าง ไขมันจับตามข้อ